สเตมเซลล์จากสายสะดือมรดกที่พ่อแม่ให้ลูก

ปัจจุบันความก้าวหน้าทางการแพทย์พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การนำสเตมเซลล์ (Stem Cells) ไปใช้มีความสำคัญมากขึ้น การเก็บสเตมเซลล์ของลูก อาจเป็นโอกาสเดียวในชีวิต และเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการรักษาชีวิตของลูกและสมาชิกในครอบครัวที่คุณ รักในอนาคต


สเตมเซลล์คืออะไร

สเต มเซลล์ คือ เซลล์ต้นกำเนิด หรือ เซลล์ต้นแบบของร่างกายที่สามารถสร้างหรือฟื้นฟูไปเป็นเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้ เช่น เซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์หัวใจ เซลล์ประสาท เป็นต้น


สเตมเซลล์รักษาโรคอะไรได้บ้าง

ปัจจุบัน ได้มีการนำสเตมเซลล์มาใช้ปลูกถ่ายไขกระดูก เพื่อรักษาโรคมะเร็งและโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับไขกระดูก นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยที่ถูกนำมาเผยแพร่มากมายเกี่ยวกับความก้าวหน้าทาง การแพทย์ อาทิเช่น การศึกษาวิจัยด้านการใช้สเตมเซลล์ในการรักษาโรคหัวใจ อัมพฤกษ์ (Stroke) เบาหวานและโรคแทรกซ้อนของเบาหวาน ภาวะภูมิคุ้มกันไวเกิน โรคทางระบบประสาทเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวและอาการสั่น (โรคพาร์กินสัน) โรคความจำเสื่อม (อัลไซเมอร์)


การปลูกถ่ายสเตมเซลล์

ใน การปลูกถ่ายสเตมเซลล์ อาทิเช่น ไขกระดูก สิ่งที่จำเป็นต่อการรักษาที่ได้ผล คือ การเข้ากันได้ของเนื้อเยื่อ (HLA typing) มิเช่นนั้น ร่างกายอาจเกิดการปฏิเสธสเตมเซลล์ของผู้อื่นได้ รหัสเนื้อเยื่อที่เข้ากันได้ของคนในครอบครัว คือ 1 ใน 4 แต่สำหรับคนนอกครอบครัวจะเท่ากับ 1 ใน 50,000 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่เป็นลูกครึ่งจะหารหัสเนื้อเยื่อที่เข้ากันได้ยาก เนื่องมาจากลักษณะเฉพาะของเนื้อเยื่อในเด็กลูกครึ่ง

ดังนั้น ไม่มีสิ่งใดดีกว่าสเตมเซลล์ของตัวเราเองหรือ คนในครอบครัวเดียวกัน เพราะถึงแม้ว่าอาจมีรหัสเนื้อเยื่อไม่ตรงกันทั้งหมด แต่โอกาสของการปฏิเสธอาจเกิดได้น้อยกว่าการใช้สเตมเซลล์จากคนนอกครอบครัวถึง ร้อยละ 30


สเตมเซลล์สามารถพบที่ไหนได้บ้าง

สเตมเซลล์ ผู้ใหญ่มาจาก 3 แหล่ง ได้แก่ สายสะดือ (Umbilical Cord Blood-UCB) กระแสโลหิต (Peripheral Blood Stem Cells-PBSC) และ ไขกระดูก (Bone Marrow Stem Cells-BMSC)


เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสเตมเซลล์จากสายสะดือ

สาย สะดือเป็นสายใยแห่งความรักที่เชื่อมโยงระหว่างทารกในครรภ์กับมารดา ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่แลกเปลี่ยนสารอาหารและของเสียจนกว่าทารกจะคลอดแล้วยัง เป็นแหล่งของสเตมเซลล์ที่มีค่าสูง สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคพันธุกรรมและโรคอื่นๆ ได้อีกหลายชนิด

การ เก็บเลือดจากสายสะดือ สามารถทำได้ในช่วงแรกคลอดเท่านั้น ซึ่งเลือดที่เก็บนั้นไม่ได้มาจากมารดาหรือทารก จึงมีความปลอดภัย ไม่มีอันตราย วิธีการจัดเก็บง่าย และมีเซลล์ต้นกำเนิดที่เป็นหนึ่งเดียวกับทารกและมีรหัสเนื้อเยื่อใกล้เคียง กับคนในครอบครัว


ทำไมต้องเก็บสเตมเซลล์จากสายสะดือ

ถึงแม้ว่าความชัดเจนในการนำไปใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคต่างๆ ยังเป็นเรื่องของอนาคต แต่วันนี้ชีวิตของลูกคุณมีทางเลือก เพราะการเก็บสเตมเซลล์ไว้ก่อนเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับวันที่โรคร้ายมาเยือนการเตรียมสเตมเซลล์ไว้จะทำให้ไม่ต้องหาและรอคอยสเตมเซลล์ที่เข้ากันได้จากผู้อื่น

0 comments: