บัญญัติ 5 ประการในการเผาผลาญ




ผู้หญิงจำนวนมากประสบปัญหา บริโภคอาหารแต่พอประมาณเหตุไฉนรูปร่างยังเพิ่มพูนด้วยส่วนเกินนำมาซึ่งความสงสัยว่า อาจเกิดจากระบบการเผาผลาญในร่างกายของเราทำงานไม่ดีพอ ซึ่งก่อนสรุปควรต้อง รู้ข้อมูลว่า การเผาผลาญคืออะไร และ มีปัจจัยอะไรบ้างที่ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญ ได้ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น



พญ.ซูซาน โบเวอร์แมน ที่ปรึกษาของเฮอร์บาไลฟ์ อิน เตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ด กล่าวถึงการทำงานของระบบการเผาผลาญใน ร่างกายว่า “เป็นกระบวนการทางเคมีที่เกิดขึ้นในร่างกายที่ทำให้คนเราสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ทำให้เราหายใจ มีการสูบฉีดโลหิต ส่งเสริมระบบการทำงานของสมอง และเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน”


“แต่ถ้าเราพูดถึงอัตราการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงานขั้นพื้นฐานในร่างกายของคนเรา ก็จะหมายถึงจำนวนแคลอรีที่ร่างกายเราใช้ไปในแต่ละวันและระหว่างที่เรานอนหลับ เพื่อสนับสนุนการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย”


พญ.ซูซาน อธิบายว่า อัตราการเผาผลาญมีความสัมพันธ์โดยตรงกับโครงสร้างและรูปร่างของคนเรา ไขมันในร่างกายจำนวน 1 ปอนด์ หรือ 0.454 กิโลกรัม สามารถเผาผลาญได้ประมาณ 2 แคลอรีในแต่ละวัน คนที่รูปร่างผอมบาง ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันจำนวน 1 ปอนด์ได้ถึงวันละ 14 แคลอรี แท้จริงแล้วร่างกายที่ผอมบางนั้นมีกล้ามเนื้อเป็นองค์ประกอบหลัก



ในตอนท้าย ที่ปรึกษาของเฮอร์บาไลฟ์ ให้คำแนะนำว่า หนึ่งในวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมัน คือการเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแกร่งด้วยการบริหารกล้ามเนื้อ พร้อมทั้งบริโภคอาหารที่มีโปรตีนในปริมาณมากเพียงพอนั่นเอง นอกจากนี้ยังเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย 5 ประการ ซึ่งยังเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน


“เมื่ออายุมากขึ้น ทำให้การเผาผลาญแคลอรีลดลง” ข้อมูลถูกต้อง-เมื่อเราอายุมากขึ้น น้ำหนักตัวมักเพิ่มขึ้นตาม เนื่องจากออกกำลังกายน้อยลง ส่งผลให้การเผาผลาญแคเลอรีในแต่ละวันลดลงร่างกายมีมวลกล้ามเนื้อลดลง ร่างกายจึงเริ่มมีรูปร่างหนาขึ้น อัตราการเผาผลาญพลังงานลดลง ดังนั้นการบริหารกล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือด เพื่อให้มีการเผาผลาญแคลอรีมากขึ้น รวมทั้งการออกกำลังกายเพื่อเสริมกล้ามเนื้อจะช่วยควบคุมการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักที่เกิดจากวัยที่สูงขึ้นได้เป็นอย่างดี


“ระบบการเผาผลาญแคลอรีในร่างกายของเรา ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้” ข้อมูลถูกต้อง-เรามักพบว่า บางคนแสนจะโชคดี รับประทานอาหารได้ตลอดโดยน้ำหนักตัวไม่เพิ่ม ซึ่งอาจมาจากการเลือกบริโภคเพื่อสุขภาพและให้แคลอรีต่ำ หรืออาจเคลื่อนไหวร่างกายมากและตลอดเวลา เช่น ลุกจากโต๊ะเพื่อยืดเส้นยืดสาย หรือเดินไปหารือกับเพื่อนร่วมงานแทนการใช้อีเมล ดังนั้นหากต้องการให้ร่างกายเผาผลาญมากขึ้น เพียงเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อใช้กล้ามเนื้อมากขึ้น จะช่วยให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้ดี


“อาหารหรือเครื่องดื่มเย็น ๆ จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้ดีกว่าอาหารร้อน หรืออาหารที่อุณหภูมิระดับเดียวกับอุณหภูมิห้อง” ข้อมูลถูกต้อง-ผลจากการปฏิบัติการทดลองพบว่า การเผาผลาญแคลอรีของผู้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มเย็นจะเพิ่มขึ้น เพียงเล็กน้อย (เพิ่มขึ้นวันละประมาณ 10 แคลอรี) ไม่มีผลต่อการ ทำให้น้ำหนักตัวลดลงเลย


“การลดการบริโภคแคลอรี ทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญช้าลง” ข้อมูลถูกต้อง-ตามธรรมชาติร่างกายคนเราทำหน้าที่เก็บรักษาแคลอรีมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การลดการบริโภคแคลอรีจะทำให้แคลอรีที่สะสมในร่างกายลดลง ส่งผลให้อัตราการเผาผลาญแคลอรีลดลง แต่เป็นส่วนน้อยเท่านั้น ถ้าเคลื่อนไหวกระฉับกระเฉง จะทำให้น้ำหนักตัวน้อยลง ไม่ส่งผลกระทบต่อการเผาผลาญในร่างกายได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น การบริโภคอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ คู่กับการออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะทำให้ร่างกายมีอัตราการเผาผลาญแคลอรีตามปกติ


“เมื่องดบริโภคอาหารตอนกลางคืนจะทำให้กระบวนการเผาผลาญทำงานช้าลง และทำให้ลดน้ำหนักได้มากขึ้น” ข้อมูลถูกต้อง-การหยุดบริโภคหลังจากมื้ออาหารปกติจะส่งผลให้มีน้ำหนักตัวลดลง เนื่องจากการบริโภคทำให้แคลอรีโดยรวมลดลง ไม่ใช่เกิดจากการบริโภคทำให้แคลอรีลดเร็วกว่าเดิม ดังนั้นการบริโภคเพื่อให้ได้รับแคลอรีก่อนพระอาทิตย์ตกดิน จึงไม่มีผลให้ลดน้ำหนักเร็วขึ้น เว้นแต่บริโภคอาหารที่มีแคลอรีในปริมาณน้อยกว่าความต้องการของร่างกาย.

0 comments: