ตรวจก่อนแต่ง...

http://www.212cafe.com/freewebboard/user_board/pongpitaks/picture/00025_26.jpg



สำหรับคู่รักที่เตรียมจะลั่นระฆังวิวาห์ เชื่อได้เลยว่าต่างพากันหัวหมุนกับการเตรียมงาน จองโรงแรม ไหนจะสินสอดทองหมั้น หรือบางคนเลยไปถึงว่าจะไป honeymoon ที่ไหนดี แต่ไม่ว่าจะยุ่งกันแค่ไหนก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่แพ้การตรวจเช็ดดีกรีความรักของคุณทั้งสองก็คือ การตรวจร่างกายก่อนแต่งงาน (Medical checkup for couples)

หลายท่านอาจสงสัยว่า แล้วแตกต่างจากตรวจร่างกายประจำปีอย่างไร ? โดยปกติผลตรวจร่างกายที่คุณมี เป็นเพียงการตรวจร่างกายพื้นฐาน ได้แก่ Physical Examination โดยแพทย์ การตรวจปอดและหัวใจโดย X-ray ตรวจปัสสาวะดูการทำงานของไต ตรวจเลือดเพื่อดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจระดับน้ำตาล ไขมัน ตรวจการทำงานของตับ ซึ่งผลตรวจเหล่านี้ก็จะบ่งชี้ได้ว่า ร่างกายของคุณมีความพร้อมสมบูรณ์เพียงใด

แต่สำหรับการตรวจร่างกายก่อนแต่งนั้น เป็นการตรวจความพร้อมของร่างกายก่อนแต่งงานรวมไปถึงการตรวจเพื่อป้องกันโรคทางพันธุกรรมชนิดต่างๆ หรือโรคที่สามารถถ่ายทอดได้โดยการมีเพศสัมพันธ์ผลการตรวจเหล่านี้ย่อมเป็นสิ่งสะท้อนถึงการให้กำเนิดทายาทตัวน้อยที่สมบูรณ์และแข็งแรงในวันข้างหน้านั่นเอง ทีนี้มาดูกันซิว่าการตรวจสอบที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง

  1. กรุ๊ปเลือด (Blood group)รวมทั้งการตรวจหมู่เลือด Rh negative ของฝ่ายหญิง ซึ่งหากตรวจพบ อาจส่งผลให้เกิดภาวะเลือดของแม่และลูกเข้ากันไม่ได้

  2. ธาลัสซีเมีย (Thalassemia)เป็นโรคโลหิตจางที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม ทำให้สร้างเม็ดเลือดแดงที่มีลักษณะผิดปกติ และแตกสลายเร็วกว่าที่ควร หากพบว่าทั้งคู่เป็นพาหะ การตั้งครรภ์อาจเสี่ยงต่อการแท้ง หรือหากมีชีวิตรอดอาจทำให้คุณภาพชีวิตของเด็กแย่ลง ต้องถ่ายเลือดไปตลอดชีวิต รวมไปถึงการมีสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง ติดเชื้อง่าย บางรายไม่มีอาการของโรคแต่ก็เป็นพาหะที่สามารถถ่ายทอดพันธุกรรมไปยังลูกหลานได้

  3. โรคพร่องเอนไซม์ G-6-PDเป็นโรคพันธุกรรมชนิดหนึ่งที่ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกได้ง่าย หากพ่อแม่มีความผิดปกติของพันธุกรรมนี้แล้วถ่ายทอดสู่ลูก จำเป็นต้องระมัดระวังและหลีกเลี่ยงสารที่เป็นอันตรายต่อเม็ดเลือดแดง เช่น ยากลุ่มซัลฟา แอสไพริน ถั่วปากอ้า เป็นต้น

  4. เอดส์ (HIV)เป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่อันตรายมาก เนื่องจากยังไม่สามารถป้องกันด้วยวัคซีนหรือรักษาให้หายขาดได้ และคงไม่ดีแน่หากพ่อหรือแม่ต้องจากลูกน้อยไปก่อนวัยอันควร

  5. ซิฟิลิส (VDRL)เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง หากหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อแล้วไม่ได้รับการรักษา เชื้ออาจถ่ายทอดไปยังทารกในครรภ์ ทำให้ทารกตายในครรภ์หรือตายหลังคลอด ทารกที่รอดชีวิตอาจพบความผิดปกติได้เช่น ดั้งจมูกยุบ เพดานปากโหว่ ฟันหน้าเว้าแหว่ง แก้วตาอักเสบและอาจตาบอด เส้นประสาทฝ่อ หูหนวก สมองเสื่อม เนื่องจากเชื้อเข้าไปทำลายระบบประสาท

  6. ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B)โรคนี้ติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์และทางเลือด ทำให้มีการส่งผ่านจากแม่สู่ลูกได้ หากมีเชื้อไวรัสในร่างกายอาจมีโอกาสกลายเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง โรคตับแข็ง และโรคมะเร็งตับอื่นๆ ก็ได้ ดังนั้นแพทย์อาจพิจารณาให้วัคซีนตับอักเสบ บี ร่วมด้วย

  7. หัดเยอรมัน (Rubella)เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส หากเป็นโรคนี้ในหญิงตั้งครรภ์ อาจทำให้ทารกในครรภ์พิการ ดังนั้นแพทย์จะแนะนำให้ฉีดวัคซีนหัดเยอรมัน รวมทั้งการฉีดวัคซีนบาดทะยัก (Tetanus) ก่อนการตั้งครรภ์ด้วย

ดังนั้นการตรวจร่างกายสำหรับคุณทั้งสองที่ตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก นอกจากจะช่วยตรวจสอบว่าคุณมีความสมบูรณ์ทางร่างกายเพียงใดแล้วยังเป็นเครื่องชี้วัดความแข็งแรงของลูกน้อยอีกด้วย และแน่นอนว่าครอบครัวของคุณจะเป็นครอบครัวที่มีสุขภาพดีและมีความสุขอย่างที่คุณวาดฝันไว้นั่นเอง

0 comments: