กินตามกรุ๊ปเลือด มีผลกับชีวิตแค่ไหน ?

เลือดแต่ละกรุ๊ปมีสารเคมีในเลือดต่างกัน แต่จะมี Antigen เป็นตัวกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ซึ่งอาหารทุกชนิดล้วนมีโปรตีนซึ่งเป็นอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติเหนียวและจับเกาะติดเลือด เรียกว่า เล็คติน ถ้าการกินอาหารที่มีเล็คตินไม่เหมาะกับเลือดเรา เล็คตินเหล่านั้นยังเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร การสร้างอินซูลิน การเผาผลาญอาหาร และความสมดุลของฮอร์โมน

กรุ๊ป A นักมังสวิรัติ
คน เลือดกรุ๊ปนี้ส่วนใหญ่จะมีกรดในกระเพาะต่ำ ทำให้ระบบกายย่อยไม่ค่อยดี ระบบภูมิคุ้มกันก็ไม่ดี มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและมะเร็ง กรุ๊ปเอจึงถูกจัดเป็นนักมังสวิรัติ
อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด กินปลาอาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง เพื่อเสริมโปรตีนหลีกเลี่ยงปลาเนื้อขาว เช่น ปลาตาเดียว หรือปลาจะละเม็ด เพราะมีเล็คตินรบกวนระบบการย่อย หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ต่างๆ อาจกินเนื้อไก่ได้นิดหน่อย เลือกดื่มนมถั่วเหลือง นมแพะ หรือโยเกิร์ตไขมันต่ำแทนนมวัว กินไข่ได้บ้างเป็นครั้งคราว
บรรดาตระกูลถั่วต่างๆ อาทิ เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสงที่มีเยื่อหุ้มบางๆ และถั่วเหลือง เหมาะกับคนเลือดกรุ๊ปนี้ สามาถกินข้าวกล้องหรือซีเรียลได้วันละ 1-2 ครั้ง ผักทั้งสดและสุกกินแล้วดี โดยเฉพาะหอมหัวใหญ่และบร็อคเคอลีมีสารแอนติออกซิแดนท์สูง แครอท ฟักทอง ผักโขม และกระเทียม ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน กินผลไม้ได้แทบทุกชนิดยกเว้นแตงโม แคนตาลูป มะม่วง มะละกอ กล้วย ส้ม เพราะย่อยยาก พวกชาสมุนไพรจะไปเพิ่มกรดในกระเพาะ ไวน์แดงดื่มได้แต่ควรเลี่ยงเบียร์และน้ำอัดลม

กรุ๊ป B อ้วนง่าย
คน ที่มีเลือดกรุ๊ปนี้ส่วนใหญ่มีปัญหากับไวรัสและภูมิคุ้มกันบกพร่อง ระบบประสาทไม่ค่อยดี ชอบปวดตามข้อ ซึ่งไม่ใช่อาการของเกาต์หรือรูมาทอยด์ มีโอกาสเกิดโรคแผลในสมอง (Sclerosis) หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง
อาหารที่ เหมาะกับกรุ๊ปเลือด เนื้อกระต่าย กวาง แกะ ไก่งวง ควรกินปลาน้ำลึก เช่น ปลาหิมะ และปลาเนื้อขาวอย่างปลาจะละเม็ด ปลาตาเดียว หลีกเลี่ยงเนื้อหมู ไก่ หอยเชลล์ กุ้ง ปู หอยแครง เพราะจะรบกวนระบบในร่างกายสามารถกินนม เนย ไข่ ในปริมาณที่เหมาะสมได้
ข้าวโอ๊ตและข้าวกล้องดีต่อคนเลือดกรุ๊ปนี้ ขณะที่แป้งสาลี ถั่วลิสง และโฮลวีท ไม่ดีต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย ทำให้อ้วน และไม่ดีต่อเลือด อาจเป็นสาเหตุของโรคเส้นโลหิตแตก ควรลองแป้งสเปลท์ (Spelt) ซึ่งเป็นแป้งที่มีคุณค่าทางสารอาหารและมีไฟเบอร์สูง ผักใบเขียวทุกชนิดกินดีหมด เพราะมีแมกนีเซียมช่วยป้องกันอาการผื่นคัน
แต่ ถ้าอยู่ระหว่างไดเอ็ทควรหลีกเลี่ยงมะเขือเทศและข้าวโพด เพราะมีผลต่อการสร้างอินซูลินและระบบเผาผลาญ กินผลไม้ได้แทบทุกชนิด ยกเว้นลูกพลับ ทับทิม และลูกแพร์ ชาสมุนไพรที่ให้ประโยชน์คือ ขิง เปปเปอร์มิ้นต์ โสม ชาเขียว

กรุ๊ป O High Protein
ปัญหาของคน เลือดกรุ๊ปนี้คือ กระเพาะมีความเป็นกรดสูง สามารถย่อยอาหารจำพวกเนื้อได้ดีกว่าเลือดกรุ๊ปอื่น แต่ระบบการเผาผลาญไม่ค่อยดี ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ไม่ค่อยคงที่ จึงทำให้อ้วนง่าย ตามติดมาด้วยปัญหาเลือดแข็งตัวช้า
อาหารที่เหมาะกับ กรุ๊ปเลือด เลือกกินเนื้อได้ตามใจชอบ กินอาหารทะเลได้เป็นประจำเพื่อป้องกันโรคเลือดไม่แข็งตัวและไทรอยด์ แต่ระวังเรื่องไขมันและโคเรสเตอรอลด้วย กินนม เนย ไข่ ในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าอยากผอมต้องเลี่ยงแป้งสาลี ข้าวโอ๊ต และบรรดาถั่วต่างๆ
ผักกินได้ แทบทุกชนิด โดยเฉพาะบร็อคเคอลี ผักโขม มีวิตามินเคสูง ช่วยให้เลือดแข็งตัว ส่วนผักตระกูลกะหล่ำเสี่ยงเสียเพราะมีผลต่อไทรอยด์ เห็ดหอม และมะกอกดองทำให้เกิดอาการแพ้ มะเขือยาวและมันฝรั่งทำให้ปวดข้อ ผลไม้กินได้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะตระกูลเกรปฟรุต ตระกูลเบอร์รี่ (ยกเว้นแบล็คเบอร์รี่) ช่วยลดน้ำหนัก ควรเลี่ยงแคนตาลูป มะพร้าว ส้ม และ
สตรอว์เบอร์รี่ เพราะมีกรดสูงเกินไป ชาสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ อาทิ เปปเปอร์มิ้นต์ Licorice Tea Parsley ฯลฯ ไม่ควรดื่มเบียร์ ชา กาแฟ เพราะจะเพิ่มกรดในกระเพาะให้หนักเข้าไปอีก

กรุ๊ป AB มังสวิรัติและคาร์โบไฮเดรต
กรู๊ ปนี้เป็นการผสมผสานระหว่างกรุ๊ปเลือดเอกับบี ดังนั้นวิถีการกินที่เหมาะสมกับคนกรุ๊ปนี้จึงเป็นการผสมผสานการกิน มังสวิรัติหน่อยๆ กับการกินแบบกรุ๊ปบีนิดๆ คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้มีจุดอ่อนเรื่องสุขภาพอยู่ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอและ กรดในกระเพาะต่ำ
อาหารที่เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและเต้าหู้ สามารถกินเนื้อแกะ กวาง กระต่าย และไก่งวงได้นิดหน่อย ไม่ควรกินปลาเนื้อขาวและแซลมอนรมควัน เพราะย่อยยากและเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหาร สามารถกินนม เนย ไข่ และโยเกิร์ตไขมันต่ำได้ จำพวกข้าว ข้าวโอ๊ต ข้าวไรย์ มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ควรงดเว้นการกินถั่วแดง งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ข้าวโพด เพราะจะชะลอการทำงานของอินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงเฉียบพลัน ผักสดกินได้แทบทุกชนิด ช่วยป้องกันมะเร็งและโรคหัวใจ ผลไม้กินได้ดีเป็นบางอย่าง อาทิ องุ่น พลัม ตระกูลเบอร์รี่ สับปะรด ส้มโอ ฯลฯ เพราะช่วยสร้างความสมดุลของกรดในเนื้อเยี่อ ไม่ควรกินกล้วย มะม่วง ฝรั่ง ส้ม

0 comments: