ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งเต้านม



สวัสดี ค่ะ วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงหลักๆของมะเร็งเต้านมมาฝากนะคะ หลายๆคนคงทราบอยู่แล้วว่ากรรมพันธุ์, การที่เกิดมาเป็นเพศหญิง, การเริ่มมีประจำเดือนเมื่ออายุยังน้อย และอายุ ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักๆของมะเร็งเต้านม และเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ข่าวดีก็คือ ยังมีปัจจัยเสี่ยงอีกหลายๆปัจจัย ที่เราสามารถควบคุมและเปลี่ยนแปลงได้ เช่น:


1. การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล --ไม่ควรดื่มเลยจะดีที่สุด


2. การออกกำลังกาย --ยิ่งสม่ำเสมอยิ่งดี และไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงที่หุ่นดีแล้วไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายนะคะ ผู้หญิงที่ผอมแต่ไม่ออกกำลังกาย มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมสูงกว่าผู้หญิงที่หุ่นพอๆกันแต่ออกกำลัง กายเป็นประจำค่ะ มากกว่านั้น มีการวิจัยมาแล้วว่าผู้หญิงที่ออกกำลังกายหนักๆอาทิตย์ละ 3 ชั่งโมงจะสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้ถึง 20% เชียวนะคะ


3. การคุมน้ำหนักตัว --น้ำหนักยิ่งเกินมาตรฐาน โอกาสเป็นมะเร็งเต้านมก็จะยิ่งมากขึ้นด้วย


4. การเสริมฮอร์โมน --เนื่องจากว่ามะเร็งเต้านมมีความเกี่ยวพันกับระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่าง กาย ดังนั้นควรจะหลีกเลี่ยงการเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นจากการทานยาคุมกำเนิด หรือ การรักษาด้วยการทดแทนฮอร์โมน มีการวิจัยชี้ชัดแล้วว่าการทานยาคุมกำเนิดเป็นระยะเวลานาน จะเพิ่มโอกาสการป็นมะเร็งเต้านม ดังนั้นจึงแนะนำให้ใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นหากเป็นไปได้ หากคุณเข้าสู่วัยทองและกำลังรับการรักษาอาการด้วยการทดแทนฮอร์โมน (hormone replacement therapy) ขอแนะนำให้ใช้ฮอร์โมนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ และให้ทำการรักษาในระยะเวลาที่ยิ่งสั้นยิ่งดี


5. การเลือกที่จะมีลูกเร็วขึ้นและ ให้นมลูก --ผู้หญิงที่มีลูกเมื่ออายุมากกว่า 30 หรือ ผู้หญิงที่ไม่เคยตั้งครรภ์เลย จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมที่สูงกว่าผู้หญิงที่มีลูกตอนก่อน 30 อย่างไรก็ตาม หากมีลูกแล้วสามารถให้นมลูกเอง ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม และการให้นมลูกเองยิ่งนานก็จะยิ่งลดความเสี่ยงลงด้วย


6. การตรวจหามะเร็งเต้านมเป็นประจำ --ไม่ว่าจะป็นการคลำตรวจเองทุกๆเดือนหรือ การไปตรวจด้วยเครื่อง mammogram และหากคุณเป็นคนที่มีเนื้อเต้านมที่แน่นหนา (dense breast tissue) คุณก็จะมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งเต้านมมากขึ้นด้วย


เราหวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณผู้อ่านได้ปรับวิถีชีวิตเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมนะคะ

0 comments: