คลายเครียดและ การพักผ่อนชะลอความแก่

ความเครียดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้จะไม่ใช่สิ่งผิดปกติ แต่ก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะถ้าเราต้องวนเวียนอยู่กับความเครียด จิตใจก็จะไม่เป็นสุข ทำให้ชีวิตไม่เป็นสุข รวมทั้งผู้คนรอบข้างก็พลอยไม่เป็นสุข แถมยังมีความแก่เกิดขึ้นอีกด้วย ดังนั้นหากเราสามารถบริหารจัดการกับความเครียดได้ก็นับว่าเป็นยาขนานเอกที่ช่วยชะลอความแก่ได้


ความเครียดส่งผลให้เกิดความผิดปกติทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งอาการที่พบของความผิดปกติทางร่างกาย เช่น หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตเพิ่ม มือเท้าเย็น เหงื่อออกตามมือตามเท้า หายใจตื้นและเร็ว ใจสั่น ถอนหายใจบ่อย การใช้พลังงานของร่างกายเพิ่มขึ้น รู้สึกเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ท้องผูกหรือท้องเสีย นอนไม่หลับหรือง่วงเหงาหาวนอนตลอดเวลา ท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ผิวหนังเป็นผื่นคัน เป็นหวัดบ่อย แพ้อากาศง่าย ฯลฯ ส่วนอาการที่พบความผิดปกติทางจิตใจ เช่น หลงลืมง่าย ไม่มีสมาธิ หงุดหงิด โกรธง่าย วิตกกังวล คิดฟุ้งซ่าน เบื่อหน่าย ซึมเศร้า เป็นต้น


หากปล่อยไว้นานวันเข้าอาจทำให้เกิดเป็นความเครียดสะสม ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สุขภาพอ่อนแอ และก่อให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เพราะในภาวะเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมา นั่นคือ สารอะดรีนาลีนและนอร์อะดรีนาลีน ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุของโรคที่นำไปสู่ความชราเร็วขึ้น เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ซึมเศร้า หดหู่ ฯลฯ ดังนั้นควรทำจิตใจให้แจ่มใสและพยายามคิดในแง่บวกอยู่เสมอ(Positive thinking)


สำหรับวิธีการผ่อนคลายความเครียด มีด้วยกันหลายวิธี ลองหากิจกรรมที่ชื่นชอบไว้คลายเครียด อาทิเช่น ร้องเพลง ฟังเพลง เล่นดนตรี เต้นรำ ปลูกต้นไม้ เล่นกีฬา วาดรูป เดินชอปปิ้ง สปา นั่งสมาธิ เป็นต้น


ส่วนวิธีที่ง่ายและและคลายเครียดได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่น้อยกว่าวันละ 8ชั่วโมง รวมทั้งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งให้ผลดีต่อสุขภาพแล้วยังคลายเครียดได้เป็นอย่างดี


แม้ว่าเราจะมีอายุเพิ่มขึ้น ก็ยังจำเป็นต้องนอนหลับพักผ่อนให้ได้วันละ8 ชั่วโมง แต่คนส่วนใหญ่มีเวลาการนอนเฉลี่ยประมาณ6-8 ชั่วโมง ทั้งนี้การนอนหลับพักผ่อนไม่พียงพอส่งผลต่อสุขภาพมากมายเกินกว่าจะนึกถึง นอกจากจะทำให้รู้สึกง่วงหงาวหาวนอนตอนกลางวันแล้ว ยังมีผลต่อการใช้ความคิด การใช้เหตุผล เพราะสมองทำงานได้ไม่เต็มที่ นอกจากนี้ยังส่งผลต่ออารมณ์ ขาดสมาธิ และทำให้ระบบภูมิต้านทานโรคลดลง รวมทั้งความสามารถในการรับความเครียดน้อยลงเช่นกัน และที่สำคัญทำให้เราแก่เร็วขึ้น


นอกจากนี้เวลาที่นอนน้อยลง อาจทำให้มีน้ำหนักเพิ่มมากชึ้นด้วย ทั้งนี้เพราะเมื่อร่างกายผักพ่อนไม่เพียงพอจะเกิดการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol)ซึ่งจะไปกระตุ้นให้มีการสะสมของไขมันส่วนเกินมากขึ้น ทำให้อ้วนง่ายขึ้น


http://pirun.ku.ac.th/%7Eb4915043/c62d1aa85c57913.jpg
การนอนหลับอย่างเพียงพอจะช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเมลาโตนิน(Melatonin)และเซโรโตนิน(Serotonin)ในร่างกาย พบว่าการนอนหลับตั้งแต่ช่วงเวลา22.00-06.00น.เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับตัวได้ดี เนื่องจากฮอร์โมนเซโรโตนินจะถูกหลั่งตอนเที่ยงคืน นอกจากนี้ฮอร์โมนเมลาโตนิน ซึ่งมีผลกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ป้องกันการเกิดมะเร็งและมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และที่สำคัญที่สุดควรฝึกวินัยในการนอนให้เป็นปกติทุกวัน


เพื่อให้นอนหลับง่ายขึ้นควรออกกำลังกายร่วมด้วย สัปดาห์ละ 3-4วัน โดยออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องประมาณ30-45 นาที เป็นประจำ จะช่วยให้ร่างกายกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่มีประโยชน์รวมทั้งฮอร์โมนแห่งความสุขด้วย(Endorphin)ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า รวมทั้งช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายความเครียด ทำให้หลับสบายขึ้นได้เป็นอย่างดี
จะเห็นได้ว่าความเครียดและ การนอนไม่พอมีผลต่อร่างกายและจิตใจ ดังนั้นหากรู้สึกเครียดหรืออดหลับอดนอนเมื่อไหร่ ควรรีบหาวิธีผ่อนคลายความเครียดกัน ก่อนที่โรคร้ายต่างๆ และ ความชราจะมาเยือน

0 comments: