หลายท่านที่เจอคำถามแบบนี้ คงจะหวั่นใจไม่น้อย
เพราะไม่แน่ใจจุดประสงค์ของผู้ถามว่ามีความหมายอย่างไรกันแน่ จะแลดูอ่อนกว่าวัยหรือแก่กว่าวัย ถ้าเป็นอย่างแรก คงดีใจไม่น้อย แต่ถ้าเป็นอย่างหลังละก็ความทุกข์ใจคงเกิดขึ้นทันที ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถรักษาสุขภาพร่างกายรวมถึงหน้าตาให้ดูอ่อนกว่าวัยได้ ไม่ยากแค่หันมาใส่ใจตัวเอง และอย่าปล่อยให้วันเวลาทำให้เราแก่ชราไปตามวัย เคล็ดลับการมีสุขภาพดีแลดูอ่อนกว่าวัยมีดังนี้
-
Deal with stress
แน่นอนว่าความเครียดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สุขภาพอ่อนแอ และก่อให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ในภาวะเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมา นั่นคือ สารอะดรีนาลีน และนอร์อะดรีนาลีน ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้เป็นสาเหตุของโรคที่นำไปสู่ความชราเร็วขึ้น เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ซึมเศร้า หดหู่ ฯลฯ ดังนั้นควรทำจิตใจให้แจ่มใสและพยายามคิดในแง่บวกอยู่เสมอ (Positive thinking)
-
Build strong muscles
ผู้ชายที่อายุเริ่มเข้า 30 และผู้หญิง 40โดยธรรมชาติมัดใยกล้ามเนื้อจะเริ่มเกิดการเหี่ยวย่น ไม่มีแรงเหมือนก่อน พบว่าการออกกำลังเป็นเครื่องมือช่วยชะลอความแก่ที่สำคัญ ไม่ว่าคุณจะออกกำลังกายแบบใดก็ตาม ล้วนมีส่วนทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง และเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปสู่อวัยวะต่างๆ ของร่างกาย การออกกำลังกายแบบโยคะก็มีส่วนช่วยทำให้ร่างกายมีความยืดหยุ่น และดูอ่อนกว่าวัยได้เช่นกัน
-
Boots your immune system
เมื่ออายุมากขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายจะลดลง ทำให้เกิดการติดเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น เวลาที่มีบาดแผลมักจะหายช้า แต่เราสามารถทำให้ภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นได้ โดยรับประทานอาหารที่มีคุณประโยชน์สูง โดยเฉพาะอาหารที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น Vitamin E, Vitamin C, Zinc, Selenium, Alpha lipoic acid, Coenzyme Q10เป็นต้น
-
Protect your brain
การดูแลสมองถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดก็ว่าได้ การรับประทานปลาอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ มีส่วนช่วยปกป้องเซลล์สมองเสื่อมได้ ปลาเป็นแหล่งของกรดไขมันจำเป็นกลุ่ม Omega-3 ที่ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ทำให้ความจำและความสามารถในการเรียนรู้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ Fish oil และ Flax seed oil ก็เป็นแหล่งของ Omega-3 ที่ดี และการขาดวิตามิน บี โดยเฉพาะ Folic Acid และ Vitamin B12 ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การรับรู้ของสมองลดลง
Gingko biloba เป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ช่วยบำรุงสมองและช่วยในเรื่องของความจำ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระและยับยั้งการเกาะตัวของเกร็ดเลือด ทำให้เพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย
-
Beat inflammation
ภาวะอักเสบ (Inflammation) เป็นปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันในร่างกายที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับบาดเจ็บหรือติดเชื้อ ซึ่งภาวะอักเสบอาจนำไปสู่ปัญหาของโรคเสื่อมชนิดต่างๆ ได้เช่น โรคหัวใจ สมองและระบบประสาท มะเร็ง ฯลฯ การรับประทานกรดไขมันจำเป็นกลุ่ม Omega-6 เป็นประจำอาจต่อต้านภาวะอักเสบที่เกิดขึ้นได้ แหล่งของ Omega-6 ที่สำคัญคือ น้ำมันโบราจ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส น้ำมันดอกคำฝอย เป็นต้น นอกจากนี้พืชสมุนไพรจำพวกขิงและขมิ้นก็มีสรรพคุณลดภาวะการอักเสบได้เช่นกัน
0 comments:
Post a Comment